Case
Studies
สัมภาษณ์
CIO - นายวิรัช ดำรงผล
รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
สำนักนายกรัฐมนตรีเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญ
ทั้งต่อส่วนราชการด้วยกันเองและต่อประชาชน บทบาทที่มีต่อส่วนราชการด้วยกันเอง
ได้แก่ การเป็นผู้รักษาระเบียบปฏิบัติต่างๆ เช่น ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ
ระเบียบ สำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุที่ใช้ในส่วนราชการ ส่วนบทบาทหรือบริการที่ให้แก่ประชาชน
ได้แก่ การช่วยเหลือเกษตรกรเรื่องผลผลิตหรือ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในเรื่องต่างๆ
ที่เกิดจากการปฏิบัติงานของทางราชการ บทสัมภาษณ์ของ CIO ของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
ท่านวิรัช ดำรงผล คงพอจะสะท้อนความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติงาน
ของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะด้านไอที อาทิเช่น วิสัยทัศน์ของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
สถานภาพในการจัดทำแผนแม่บทไอที ปัญหาการจัดซื้อจัดจ้าง และหัวข้อสนทนาอื่นๆ
ที่น่าสนใจอีกมากมาย
ขอทราบวิสัยทัศน์ของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
วิสัยทัศน์
(vision) ด้านการพัฒนาและจัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ คงจะต้องกล่าวถึง
ทั้งในฐานะที่เป็นกระทรวง สำนักนายกรัฐมนตรีที่มีหลายๆ กรมในสังกัด
และในฐานะที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี มีฐานะเหมือนกรมๆ หนึ่ง
ดังนี้
1.
วิสัยทัศน์ด้านการพัฒนาและจัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของสำนักนายกรัฐมนตรี
(นร.)
ในปัจจุบันการพัฒนาทางด้านไอที
มีความก้าวหน้ารวดเร็วมาก สำนักนายกรัฐมนตรีตระหนักถึงความจำเป็นที่ต้องมีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัย
เพราะเรามีทั้งในส่วนที่ติดต่อกับประชาชนและส่วนราชการ ในส่วนของประชาชนจะเป็นเรื่องเงินกู้และการไม่ได้รับความเป็นธรรม
ส่วนราชการคือเรื่องระเบียบ ที่ว่าด้วยการพัสดุและงานสารบรรณ ไอทีจึงจำเป็นถ้านำมาใช้ได้ก็มีประโยชน์
เรามองไปข้างหน้าในเรื่องการนำเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัย เพื่อสนับสนุนให้การดำเนินการของสำนักนายกรัฐมนตรี
มีประสิทธิภาพมากและเอกภาพมากขึ้น ทั้งในด้านการประสานการกำหนดนโยบายการวางแผนระดับชาติ
กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สำนักงบประมาณ รวมทั้งจะใช้เทคโนโลยีสารสนเทศให้เป็นสื่อกลาง ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงาน
และการให้บริการข้อมูลข่าวสาร พร้อมทั้งความคิดเห็น และข้อเสนอแนะจากหน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องรวมทั้งประชาชนทั่วไป
คาดว่าหากงบประมาณพร้อมในปี 2544 ควรจะแล้วเสร็จ ดำเนินการได้
2.
วิสัยทัศน์ด้านการพัฒนาและจัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
(สปน.)
เมื่อแผนเทคโนโลยีสารสนเทศในระยะ
4 ปี เสร็จสิ้นแล้ว สปน. จะมีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการเป็นศูนย์กลางการบริหาร
และประสานงานของสำนักนายกรัฐมนตรี รวมทั้งเป็นหน่วยงานกลางในการกำกับ
แนะนำ ส่งเสริม ประสานและสนับสนุนการบริหารราชการของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนในด้านความเป็นธรรม และแก้ไขความเดือดร้อนจากการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยราชการ
ในการรับเรื่องร้องเรียนมาแก้ไข ในด้านการบรรเทาความเดือดร้อนที่ราษฎรได้รับ
เช่น การให้เงินกู้ยืมแก่เกษตรกรเพื่อไปไถ่ถอน การจำนองที่ดินที่กำลังจะถูกยึด
ส่งเสริมการเป็นแหล่งข้อมูลกลาง และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของราชการแก่สาธารณชน
เพื่อเสริมสร้างสิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการบริหารงาน
และการดำเนินการของรัฐ อีกทั้งยังเป็นการแลกเปลียนข้อมูลข่าวสารระหว่างหน่วยงานทั้งในและนอกสำนักงาน
อีกด้วย
สถานภาพในการจัดทำแผนแม่บทไอทีของหน่วยงานในปัจจุบันเป็นอย่างไร
?
- สปน.
ได้ว่าจ้างสถาบันที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในราชการ (สปร.)
จัดทำแผนแม่บทการพัฒนาระบบสารสนเทศของ สปน. และได้ส่งแผนแม่บทดังกล่าวให้สำนักงบประมาณพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนการดำเนินการจัดหาตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
13 สิงหาคม 2534 และได้ส่งแผนไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2541
ต่อมา
สำนักงบประมาณได้กำหนดแนวทางปฏิบัติในการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ของส่วนราชการ
และรัฐวิสาหกิจ ตามนัยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2541
โดยให้ CIO หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่แทน ต้องลงนามรับรองแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์
สำนักงบประมาณจึงได้ส่งเรื่องกลับมาให้ สปน. ดำเนินการให้เป็นไปตามแนวทางปฏิบัติดังกล่าว
CIO ประจำ สปน. ได้ลงนามรับรองแผนดังกล่าว และส่งให้สำนักงบ-ประมาณพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2542 ขณะนี้เรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงบประมาณ
- แผนแม่บทการพัฒนาระบบสารสนเทศของ
สปน. มีสาระสำคัญ สรุปได้ดังนี้
- วัตถุประสงค์
- เพื่อพัฒนาระบบสารสนเทศของ สปน. ให้มีข้อมูลที่สมบูรณ์ ครบถ้วน
ครอบคลุม สำหรับสนับสนุนภารกิจของ สปน. ทั้งระดับผู้ปฏิบัติและระดับผู้บริหาร
ตลอดจนสามารถให้บริการแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและบุคลโดยทั่วไป
โดยการเลือกสรรเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีความเหมาะสม มาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการของ
สปน. ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทิศทางเดียวกัน และสร้างเครือข่ายหลักสำหรับเชื่อมโยงเครือข่ายภายใน
สปน. และเชื่อมโยงกับหน่วยงานภายนอก สปน. รวมทั้งการเชื่อมต่อกับเครือข่าย
Internet รวมทั้งพัฒนาบุคลากรผู้ดูแลระบบให้สามารถดูแลระบบและออกแบบ
ที่เหมาะสมได้เอง และพัฒนาผู้ปฏิบัติงานให้สามารถใช้เครื่องคอมพิวเตอร์
และอุปกรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนสามารถสร้างรูปแบบการจัดเก็บข้อมูล
เพื่อประโยชน์ในการใช้งานต่อไปได้
- เป้าหมาย
- เพื่อพัฒนาระบบสารสนเทศซึ่งประกอบด้วยฐานข้อมูลกลางสำหรับสายงาน
10 สายงาน ครอบคลุมภารกิจของ สปน. รวมทั้งสิ้น 39 ฐานข้อมูล
(ระบบงาน)
- ติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ตามหน่วยงานภายใน
สปน. ทุกหน่วยงาน เพื่อให้เพียงพอต่อ การปฏิบัติตามภารกิจของหน่วยงาน
และให้สามารถประสานการเชื่อมโยงข้อมูลกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- จัดทำและติดตั้งซอฟต์แวร์ประยุกต์ที่สามารถตอบสนอง
ความต้องการข้อมูลสำหรับผู้บริหารและผู้ปฏิบัติในทุกระดับ
ครบถ้วนทั้ง 10 สายงาน
- สามารถให้บริการตอบสนองความต้องการแก่ผู้ใช้บริการได้อย่างรวดเร็ว
- ระยะเวลาดำเนินการ
- 4 ปี (ตามแผนกำหนดไว้ว่าจะดำเนินการตั้งแต่ ปี 2542-2544 แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้
เนื่องจากสำนักงบประมาณยังไม่ได้ให้ความเห็นชอบ คาดว่าน่าจะเริ่มดำเนินการได้
ตั้งแต่ปี 2544-2547)
แผนการดำเนินงานตามแผนแม่บทการพัฒนาระบบสารสนเทศของสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
ภายใน 1 ปีข้างหน้า (ปี 2543) เป็นอย่างไร ?
สปน.
ได้ขอตั้งงบประมาณปี 2542 และ 2543 เพื่อดำเนินการตามแผนแม่บทการพัฒนาระบบสารสนเทศของ
สปน. แต่ไม่ได้รับจัดสรร อย่างไรก็ตาม สปน. ได้ทำการโอนเงินงบประมาณประจำปี
2542 ในส่วนอื่นๆ มาดำเนินการจัดวางระบบเครือข่าย Internet และศูนย์ข้อมูลข่าวสาร
สปน. โดยดำเนินการเชื่อมโยงจากระบบเครือข่าย Internet ของสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรีมายัง
สปน. โดยในระยะแรกนี้จะประกอบด้วยเครื่องแม่ข่ายและเครื่องลูกข่าย
จำนวน 5 เครื่อง มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลสื่อประชาสัมพันธ์การป้องกันโรคเอดส์และข้อมูลข่าวสารของราชการตาม
พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ทางระบบเครือข่าย Internet
รวมทั้งเพื่อให้ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่สามารถใช้งานระบบเครือข่าย
Internet ได้ด้วย และขณะนี้ได้ดำเนินการเสร็จแล้วเรียร้อยแล้ว
สำรับในปีงบแระมาณ
2543 นี้ กำลังพิจารณาอยู่ว่าจะเจียดจ่ายเงินในส่วนใดมาดำเนินการเพิ่มเติมได้บ้าง
ปัจจุบันหน่วยงานของท่านได้นำไอทีมาใช้ในส่วนงานใดบ้าง
?
ปัจจุบันสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีมีการใช้งานในลักษณะของระบบฐานข้อมูลบ้างแต่
ไม่มากนัก เช่น ระบบงานรับส่งหนังสือของกองกลางและสำนักกฎหมายและระเบียบกลาง
(สกร.) ซึ่งดูแลกฎหมายและระเบียบต่างๆ, ระบบการจัดเก็บประวัติข้าราชการของกองการเจ้าหน้าที่,
ระบบฐานข้อมูลเกี่ยวกับสตรีของสำนักงานคณะกรรมการการส่งเสริมและประสานงานสตรีแห่งชาติ
(สกส.) และระบบงานเกี่ยวกับสถิติอุบัติภัยและกฎหมายระเบียบที่เกี่ยวข้องของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ
(สปอ.) เป็นต้น
สำหรับการใช้งานในระบบเครือข่าย
นั้น ปัจจุบันมีที่ สกส. และสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
(สขร.) ซึ่งเป็นเครือข่ายภายในของทั้ง 2 หน่วยงาน ประกอบด้วยเครื่องแม่ข่าย
และเครื่องลูกข่าย 2-3 เครื่อง ใช้สำหรับจัดเก็บและประมวลผลข้อมูล
รวมทั้งการใช้งานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของเจ้าหน้าที่ ส่วนการใช้งานและเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารผ่านทางระบบเครือข่าย
Internet ปัจจุบันมีที่ สกส. และ สปอ. โดยการสมัครเป็นสมาชิกกับ
NECTEC
ปัญหาและอุปสรรคของการใช้ไอทีในหน่วยงานคืออะไร
และท่านมีวิธีการแก้ไขปัญหาอย่างไร
ปัญหา
- การไม่ได้รับงบประมาณตามที่เสนอไป
- แต่ละกอง/สำนัก ตั้งงบประมาณจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์กันอย่างอิสระ
ไม่มีหน่วยงาน กลางคอยควบคุมดูแลให้การจัดซื้อเป็นไปอย่างมีเอกภาพและสามารถนำมาใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด
- ความสนใจเรื่องคอมพิวเตอร์ของผู้คนรุ่นก่อนๆ
นี้ โดยทั่วไปมีน้อย ซึ่งส่วนใหญ่มักเห็นว่าเป็นเรื่องของคนรุ่นใหม่
แนวทางการแก้ไขปัญหา
- สปน.
จะดำเนินการตั้งงบประมาณเพื่อดำเนินการตามแผนแม่บทการพัฒนาระบบสารสนเทศ
ขณะนี้ได้แก้ปัญหาโดยใช้วิธีโอนเงินงบประมาณบางส่วน และใช้เงินอื่นๆ
มาดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาที่มีความเร่งด่วนไปบางส่วนก่อน
- ปัจจุบัน
สปน. มีศูนย์พัฒนาระบบและข้อมูลสารสนเทศในสำนักนโยบายและแผน ทำหน้าที่
เป็นหน่วยงานกลางในการดำเนินการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของ สปน. ตามแผนแม่บทการพัฒนาระบบสารสนเทศของ
สปน. และหน่วยงานต่างๆ จะไม่สามารถตั้งงบประมาณและจัดซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ได้อย่างอิสระ
เพราะต้องให้ CIO รับรองก่อน
ขอทราบ
Website การบริการต่างๆ ของหน่วยงานที่มีบนอินเทอร์เน็ตว่ามีบริการอะไรบ้าง
?
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีมีความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาในการจัดซื้อจัดจ้างไอทีของภาครัฐอย่างไร
และมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างไร ?
การจัดซื้อจัดหาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในราชการต้องดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ
พ.ศ. 2535 และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติม รวม 4 ฉบับ ซึ่งระเบียบได้มีการปรับปรุงแก้ไขให้รัดกุมและเป็นธรรมแก่ผู้เกี่ยวข้องอยู่ตลอดเวลา
จึงไม่มีปัญหา แต่จะมีปัญหาในทางปฏิบัติที่สำคัญ คือ การกำหนดคุณลักษณะที่ต้องการ
โดยเฉพาะในเรื่องของไอทีซึ่งมีความหลากหลายและมีการพัฒนาต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลา
ทำให้เกิดช่องว่างให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสามารถกำหนดรายละเอียดคุณลักษณะให้เป็นประโยชน์แก่บริษัทใดบริษัทหนึ่งได้ง่าย
ซึ่งในเรื่องนี้ สำนักกฎหมายและระเบียบกลางกำลังหาวิธีการเพื่อให้การดำเนินการในเรื่องนี้มีความรัดกุมยิ่งขึ้น
เรื่อง
พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารฯ สปน. เกี่ยวข้องมากน้อยเพียงใด และมีการดำเนินการในส่วนนี้อย่างไร
?
ในการดำเนินการตาม
พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 นั้น สปน. มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบและเกี่ยวข้อง
รวม 2 กรณี คือ
- งานของสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นเป็นหน่วยงานระดับสำนักงานในสังกัด
สปน. รับผิดชอบเกี่ยวกับงานวิชาการและธุรการ ของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร
ของราชการและคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยช้อมูลข่าวสาร ประกอบด้วยผู้ชำนาญการ/ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ทรงคุณวุฒิ
งานของสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการค่อนข้างหลากหลายและต้องประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ
ทุกหน่วยงาน แต่เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นใหม่ การดำเนินการต่างๆ
ทางด้านไอที ยังไม่ได้บรรจุอยู่ในแผนแม่บทการพัฒนาระบบสารสนเทศของ
สปน. จึงยังไม่มีงบประมาณในการดำเนินการ ทั้งนี้ได้ของบประมาณงบกลางปี
2542 และงบประมาณที่ได้รับปี 2542 ดำเนินการจัดซื้อจัดหาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์
ได้แก่ 1) อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ สำหรับการใช้งานในสำนักงาน 2) ระบบการจัดเก็บเอกสารและข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์
ในวงเงิน 2.4 ล้านบาท ประกอบด้วย เครื่องจัดเก็บเอกสาร และคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่เป็นเครือข่าย
- งานการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารราชการของ
สปน. ที่จะต้องเปิดเผยข้อมูลตาม พ.ร.บ. และได้ดำเนินการจัดระบบข้อมูลข่าวสาร
ทั้งนี้ สปน. ได้จัดซื้อเครื่องจัดเก็บเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ที่สามารถจัดเก็บเอกสารได้เป็นจำนวนมากพร้อมกับสามารถค้นหาได้
ด้วยความรวดเร็วมาไว้บริการแก่ประชาชน พร้อมกับจัดทำระบบ Internet
เพื่อเผยแพร่ข้อมูลอีกด้วย ขณะนี้ดำเนินการติดตั้งในส่วนของ Hardware
เสร็จเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะสามารถใช้งานได้ในเดือนธันวาคม 2542
ท่านมีคติพจน์หรือหลักในการทำงานอย่างไร
?
หลักสำคัญคือ
การทำงานที่เป็นระบบ งานทุกอย่างต้องมีการวางแผน จะต้องศึกษา พิจารณา
จุดมุ่งหมายของงาน ความสัมพันธ์ ความเกี่ยวเนื่องของงาน ซึ่งจะทำให้การทำงานของเราถูกต้องเสมอ
อีกประการ
คือ การเป็นผู้บังคับบัญชาที่ดี และเป็นผู้ใต้บังคัญบัญชาที่ดีในเวลาเดียวกัน
ท่านมีอะไรจะฝากไปถึง
CIO ท่านอื่นๆ อย่างไร ?
งานไอทีเป็นงานที่พัฒนาโดยรวดเร็ว
การแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ซึ่งกันและกันจึงมีความสำคัญมาก
ในขณะนี้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านไอที รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ
มีความพร้อมไม่เท่ากัน การแลกเปลี่ยนความรู้ การช่วยเหลือเกื้อกูลกันจะทำให้การพัฒนาไอทีของเราทำได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น
ดังนั้น หากเป็นไปได้จะพยายามผลักดันให้มีการช่วยเหลือกันระหว่างหน่วยงาน
โดยอยากจะให้ CIO มีโอกาสพบปะสังสรรค์กัน เพื่อให้เกิดความใกล้ชิดและถือเป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
และประสานงานกันโดยสม่ำเสมอ ซึ่งจะได้หารือกับ CIO ท่านอื่นๆ ต่อไป
จากการที่ได้รับตำแหน่งผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูง
(CIO) ทำให้ต้องพยายามใส่ใจในส่วนของไอทีเพิ่มมากขึ้น และได้ให้ข้อคิดเห็นเพิ่มเติมในเรื่องของคอมพิวเตอร์อินเทอร์เน็ต
และ E-mail ที่นับว่าเป็นเครื่องมือที่มีคุณประโยชน์นานาประการที่จะทำให้ชีวิตมีความสุข
สนุก และมีผลงาน ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งประหยัดอีกมาก อาทิ
การส่งจดหมาย ส่งรายงาน ส่งแบบฟร์อม ครั้งละหลายๆ หน้า ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าโทรศัพท์ทางไกล
ซึ่งลดลงเกือบครึ่ง ปีละหลายหมื่นบาท
นอกจากนี้
ในการนัดหมายต่างๆ หากส่งทาง E-mail จะรวดเร็วปลอดภัยและได้ผล ข้อความไม่ขยายไม่เพี้ยน
หรือหากต้องการทราบข้อมูลข่าวสารสามารถใช้ Internet ติดตามข่าวสารได้แทบทุกชนิดทุกวันและสะดวกรวดเร็วอีกด้วย
|