Current Duties
Courses
ICT Ideas
ICT Education
ICT Management
ICT Principles
ICT Standards
ICT Vocabulary
CMM / CMMI
Case Studies
General Articles
Presentations
Book Reviews
Buddhism
Personal Efficiency
Writing Guides
Research Guides
VIP
Q & A
Contacts
Archive

คำแนะนำด้านการเรียน
ข้อสอบสนุก

       

 

Home
IT Idea for Spiritization

คำทักทาย ณ วันที่ 29 ธันวาคม 2546


     ในวารดิถีขึ้นปีใหม่ 2547 นี้ ผมขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายช่วยดลบันดาลให้เพื่อนสนิทมิตรสหาย ครูบาอาจารย์ ศิษย์ และท่านผู้อ่านที่ติดตามเว็บของผมประสบแต่ความสุขความเจริญ มุ่งหวังสิ่งใดในทางที่ชอบธรรมขอจงได้รับตามที่มุ่งหวังไว้ทุกประการครับ
     เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมานี้ ผมไปเข้าเรียนหลักสูตร CMMI Intermediate และ SCAMPI Lead Appraiser ที่สถาบันวิศวกรรมซอฟต์แวร์ ที่มหาวิทยาลัยคาร์เนกี เมลลอน เมืองพิตตสเบิร์ก รัฐเพนซิลวาเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกามาเป็นเวลาร่วมสองสัปดาห์ ผมได้เขียนรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการฝึกอบรม CMMI เอาไว้ในเว็บนี้ด้วยแล้วครับ เนื้อหาเกี่ยวกับ CMMI ก็เคยนำลงไปแล้ว แต่ส่วนที่เป็นเนื้อหา SCAMPI หรือการประเมินวุฒิภาวะความสามารถนั้นผมยังไม่ได้เขียน กรุณารอไปสักหน่อยก่อนครับ

     ผมกลับมาถึงเมืองไทยตอนตีหนึ่งของวันจันทร์ที่ 15 กลับถึงบ้านเข้านอนตอนตีสาม พอรุ่งเช้าก็ไปเป็น Keynote Speaker ในการประชุมปฏิบัติการเกี่ยวกับการใช้เว็บในการเรียนการสอนด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม การพูดครั้งนี้ผมไม่ได้มีเวลาเตรียมเนื้อหาไว้ก่อนเลยเพราะรับเชิญเพียงสองวันก่อนเดินทาง จึงคิดว่าจะไปเตรียมที่พิตตสเบิร์ก แต่หลักสูตรทั้งสองที่ผมไปเข้าเรียนที่พิตตสเบิร์กนั้นมีทั้งการบ้านและการสอบด้วยทำให้ต้องใช้เวลาดูหนังสือมากขึ้น ไม่อยากสอบตกเพราะค่าเรียนก็แพง ขณะเดียวกันก็เกิดอาการ Jet Lag เนื่องจากเวลาที่นั่นต่างจากที่เมืองไทย 12 ชั่วโมงพอดี จึงได้แต่งุนงงงัวเงีย ไม่เป็นอันทำเนื้อหาบรรยายได้อย่างที่ตั้งใจไว้ มาลงมือทำจริง ๆ ก็เมื่อตอนนั่งเครื่องบินกลับกรุงเทพฯนี่แหละครับ ดังนั้นเนื้อหาที่ทำจึงไม่ค่อยจะเรียบร้อยดีสักเท่าใด แต่ก็พอใช้เป็นตัวนำการบรรยายได้ การบรรยายครั้งนี้เป็นภาษาอังกฤษ เพราะมีผู้ร่วมประชุมมากต่างประเทศหลายราย เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ เขมร ลาว ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ ไซปรัส ตุรกี

    วันที่ 17 – 18 ธันวาคม ก็มีการจัดประชุมวิชาการ NCEB 2003 หรือ National Conference on e-Business ครั้งที่ 2 ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผมเป็นกรรมการช่วยคัดเลือกบทความที่มีผู้ส่งมาให้พิจารณาอยู่หลายเรื่อง และได้รับเชิญไปบรรยายในวันแรกด้วย แต่ผมต้องขอตัวเพราะเตรียมไม่ทันจริง ๆ เพราะเขาเชิญมาตอนผมเดินทางไปสหรัฐอเมริกาแล้ว ไม่มีเวลาจะตรวจสอบหาข้อเท็จจริงมาเสนอให้ผู้ฟังรับทราบ การประชุมนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับการทำธุรกิจเชิงอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Business นี่แหละ ขณะเขียนเรื่องทักทายนี้ผมยังไม่ได้อ่านบทความทั้งหมด แต่เชื่อว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจติดตามจริง ๆ

    นอกจากการประชุมวิชาการทั้งสองเรื่องนี้แล้วได้ทราบว่าในเดือนนี้ยังมีการประชุมรับฟังข้อคิดเห็นเกี่ยวกับอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ซึ่งผมไม่ได้ไปร่วมฟัง มีการประชุมแนะนำตัวกรรมการและอนุกรรมการตามพรบ.ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และ การสัมมนาไอซีทีในภาครัฐที่สมาคมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทยจัด มีการประชุมเรื่องวิศวกรรมซอฟต์แวร์ที่ทางจุฬาฯ จัด และที่สำคัญ คือ ท่านนายกรัฐมนตรีได้ไปบรรยายแสดงวิสัยทัศน์ทางด้านไอซีทีเป็นที่ฮือฮากันด้วย

    ที่เล่าเรื่องการประชุมต่าง ๆ ให้ทราบนั้น ก็เพื่อให้ตระหนักว่าเมืองไทยเราเริ่มมีผู้สนใจในเนื้อหาสาระต่าง ๆ ทางด้านไอซีทีกันมากขึ้น จนมีการจัดประชุมวิชาการด้านนี้หลายครั้งในแต่ละเดือน อย่างไรก็ตามลำพังการไปนั่งฟังในที่ประชุมเองยังมีประโยชน์ไม่มากนัก จำเป็นจะต้องนำเนื้อหาดี ๆ ที่ได้จากการประชุมไปคิดไตร่ตรอง และนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ด้วย ยกตัวอย่างเช่นในวันที่ 23 ธันวาคมนี้ สำนักงานกองทุนวิจัย หรือ สกว. ก็ได้จัดให้มีการบรรยายสรุปงานวิจัยเรื่อง “การคาดการณ์อนาคตวิทยาศาสตร์กายภาพในประเทศไทย” ขึ้นที่มหาวิทยาลัยมหิดล แม้จะไม่ใช่การประชุมด้านไอซีทีแต่ผมก็รู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ไปร่วมฟังเรื่องนี้ เพราะติดงานอื่นอยู่ก่อนแล้ว อย่างไรก็ตามทางสกว. ได้นำตารางและดัชนีที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ลงเผยแพร่ไว้ในเว็บแล้ว ผมจึงขอเชิญชวนท่านที่สนใจให้ลองเปิดอ่านดูสาระของงานวิจัยนี้ได้ที่ www.trf.or.th

   ปัญหาอย่างหนึ่งของการประชุมวิชาการด้านไอซีทีของไทยเราก็คือ คนพูดส่วนใหญ่เป็นคนหน้าเดิม ๆ อย่างผมนี่แหละ บางทีก็ต้องไปพูดเรื่องเดียวกันซ้ำ ๆ ในการประชุมหลายแห่ง ผมเองนั้นเวลารับปากใครว่าจะไปพูด ผมจะเหนื่อยมากเพราะต้องเตรียมเนื้อหาเองหมด เท่าที่พูดมาตั้งแต่หนุ่มนั้นเคยมีคนเตรียมเนื้อหาให้เพียงสองสามครั้งเท่านั้นเองครับ การประชุมวิชาการส่วนมากที่เชิญผู้บริหารไปพูดนั้นส่วนใหญ่มีคนจัดเตรียมเนื้อหาให้หมดเพราะท่านเหล่านั้นไม่มีเวลาจะค้นหาข้อมูลด้วยตัวเอง แต่กระนั้นเวลาท่านเหล่านี้พูดบางคนก็ทำได้ดีทีเดียว สามารถเชื่อมโยงเนื้อหาให้น่าสนใจได้

    ผมเองอยากให้มีนักพูดนักอภิปรายหน้าใหม่ ๆ ทางด้านไอซีทีเกิดขึ้นอีกมาก ๆ วงการจะได้คึกคัก และได้รับความรู้เรื่องต่าง ๆ มากขึ้นแทนที่จะวนเวียนอยู่กับหน้าเดิม ๆ อย่างผมซึ่งนับวันก็จะมีแต่เฉื่อยชาล้าสมัย และทำให้บางครั้งคิดว่าถึงเวลาต้องปลดระวางแล้ว

    ข้อมูลอีกอย่างหนึ่งเกี่ยวกับไอซีที ก็คือ ราชบัณฑิตยสถานได้จัดพิมพ์ศัพท์บัญญัติรวมชุดคอมพิวเตอร์กับเทคโนโลยีสารสนเทศออกมาใหม่อีกหนึ่งเล่ม ราคาถูกมากเลยครับคือแค่ 100 บาทเท่านั้น แต่หนังสือเล่มนี้หนากว่า 400 หน้า ถึงแม้จะไม่สนุกเหมือนอ่านแฮรรี พอตเตอร์ แต่ก็เป็นหนังสือสำคัญที่นักไอซีทีควรมีไว้ประจำตัวครับ

    ปีใหม่นี้ผมคิดว่าเมืองไทยเราคงจะมีเรื่องน่าตื่นเต้นให้ติดตามกันอีกมาก ซึ่งผมจะนำมาเล่าสู่กันฟังต่อไปในเว็บนี้ สำหรับวันนี้ขอให้ข้อมูลแค่นี้ก่อนครับ

ครรชิต มาลัยวงศ์   
29 ธันวาคม 2546  

 

 

Back